ในความทรงจำ

 
พวกเรารู้จักเธอ  Nguyen Si Hong Hanh  จากการไปเข้าร่วมโครงการ  Mekong Performing Arts Laboratory 2006 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ซึ่งจัดโดย PETA ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2549
เราพบเธอในวันแรกของงาน ศิลปินจากทุกประเทศที่เข้าร่วมจะเจอกันที่โรงละครเพื่อทำการแสดงชิ้นสั้นๆ เพื่อแนะนำตัว พวกเราเห็นเธอในชุดอ๋าวใหญ่ตัวสวย เราจึงเริ่มคุยกัน เธอบอกว่าคุณป้าเธอรู้จักฉัน ฉันจึงรู้ว่าเธอเป็นหลานของคุณป้า Minh Ngoc ฉันพบคุณป้าครั้งแรกเมื่อปี 2000 ที่งาน The Second Conference of Asian Women and Theatre ที่ฟิลิปปินส์ ฉันได้พบและดูงานของคุณป้ามาสามสี่ครั้งแล้ว รวมทั้งในงานนี้อีก และฉันก็ได้มาพบเธอ
ต่อมาเราก็เริ่มสนิทกันจากการได้ทำกิจกรรมการอบรมด้วยกัน เราได้แลกเปลี่ยนความคิดและดูงานกัน งานของเธอมีเนื้อหาเกี่ยวกับคนด้อยโอกาสในสังคม ส่วนตอนเย็นๆ เธอจะมาที่ห้องของพวกเรา เพราะห้องของเราเป็นห้องใหญ่ อยู่กัน 4 คน แล้วหน้าห้องเราก็กลายเป็นระเบียงปาร์ตี้เล็กๆ ที่หลายคนจะมานั่งเล่นพูดคุยกันในตอนเย็นและค่ำ ซึ่งจะมีเธออยู่ด้วยเสมอ เธอเป็นคนจิตใจดีมีน้ำใจ เธอจะช่วยเราหาซื้อข้าวของและอาหาร เนื่องจากพวกเราจะสื่อสารกับแม่ค้าแม่ขายไม่ได้ เราพูดเวียดนามไม่ได้ และแม่ค้าก็พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราต้องใช้ภาษาท่าทางกันอยู่เสมอ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดกันอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเราสั่งอาหาร เธอจะคอยอาสาและแนะนำพวกเราเสมอ มีแต่ เธอ เท่านั้น ที่มาช่วยบริการเพื่อนศิลปินด้วยกัน ถึงแม้เธอจะมาจากโฮจินินท์ ไม่ใช่คนที่ฮานอยก็ตาม
มีครั้งหนึ่งฉันต้องการหาซื้อเสื้อแบบที่ชาวบ้านเวียดนามใส่กัน ซึ่งเธอก็พาฉันเดินดั้นด้นไปไกลมากไปที่ตลาดสดขนาดใหญ่ และตามหาซื้อเสื้อที่ว่านี้จนได้ เธอเคยบอกเราว่า เธออยากมาเที่ยวเมืองไทยมาก และเธอหวังว่าเธอจะมาให้ได้ ทำให้ฉันและเพื่อนๆ หมายมั่นปั้นมือว่า ถ้าเธอมาเมืองไทย พวกเราจะพาเธอไปเที่ยว พาเธอไปเดินหาซื้อของ พาเธอไปทุกที่ที่เธออยากไป และเราจะพาเธอไปร้านที่เราชอบ
และอีกไม่นานเธอก็ได้มาเมืองไทยจริงๆ พวกเราดีใจมากที่ได้พบเธออีกครั้ง เธอมาในช่วงงานเทศกาลละคร ในวันแรกคือวันเสาร์ เธอตื่นตาตื่นใจกับละครที่หลากหลายรูปแบบและไม่ได้จำกัดการแสดงอยู่แต่ในโรงละครเท่านั้น เราบอกเธอว่า เสาร์อาทิตย์นี้เรายังยุ่งอยู่เพราะเราต้องแสดงเรื่อง ไฟล้างบาป แต่หลังจากนนี้เราจะพาเธอเที่ยว เธอบอกไม่เป็นไร ฉันเองก็จะรีบดูละครให้ได้มากที่สุด นี่ฉันวิ่งไปวิ่งมาดูได้หลายเรื่องแล้ว ฉันรู้สึกสะดุดใจอยู่เล็กน้อย ว่าทำไมเธอจึงพูดว่าเธอจะรีบดู แล้วเธอก็มาดูเราในตอนค่ำ เมื่อละครจบเธอก็เข้ามากอดฉัน และบอกเราว่าเธอจะออกเดินทาง ฝากเพื่อนๆ กลุ่ม Youth Theatre ด้วย ฉันนึกขำเธอว่าทำไมถึงห่วงพวกเขานัก จึงบอกเธอไปว่า ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราจะช่วยดูแลพวกเขาเอง
ตอนเช้าวันอาทิตย์ฉันถูกปลุกให้ขึ้นมารับโทรศัพท์แปลกประหลาดที่บอกว่า เธอจากไปแล้ว ฉันยังนึกว่าเพื่อนอำกันแรงจัง ฉันงงๆ อยู่สักพักใหญ่แล้วโทรศัพท์กลับไปถามอีกครั้ง และรู้ว่า มันคือความจริง ฉันรีบโทรศัพท์บอกเพื่อนคนอื่น แล้วคอยรอฟังข่าว
วันนี้พวกเราและเพื่อนจาก Youth Theatre ยังคงทำการแสดงต่อไป โดยตอนกลางวันพวกเพื่อน Youth Theatre เดินทางไปรับเธอกลับมา แล้วกลับมาขึ้นเวทีทันทีในตอนค่ำ ความจริงนี้อยู่ต่อหน้าเราเพราะพวกเขาไปเห็นเธอมาแล้ว พวกเราสี่คนกอดกันไว้ ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเราเพิ่งแยกกับเธอเมื่อคืนนี้เอง และละครของเราเป็นละครเรื่องสุดท้ายที่เธอได้ดู และเมื่อถึงเวลาเราขึ้นเวที ฉันก็บอกเธอกับในใจว่าฉันจะเล่นเพื่อเธอด้วย
ถึงแม้ว่าเราจะได้รู้จักกันในช่วงเวลาสั้นๆ แต่อย่างน้อย ฉันก็ได้รู้ว่าเธอมียังฝันอีกมากมายที่เธออยากทำ เธอชอบร้องเพลง เธอชอบเต้นฮิปฮอป เธออยากทำละครอีกหลายเรื่อง และพวกเรายังไม่ได้พาเธอไปในที่ที่เธอบอกว่าอยากไป ยังไม่ได้พาเธอไปซื้อของ ยังไม่ได้พาไปร้านที่เราชอบ แต่เธอไม่ได้อยู่ในโลกนี้แล้ว ฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก เพียงอยากบอกแม่ของเธอว่า เธอจะอยู่ในความทรงจำของฉัน และฉันจะทำละครเผื่อเธอด้วย